วันพุธ, ตุลาคม 29, 2551

ท้องก่อนแต่ง ทำแท้ง และเบนโล

หลายวันก่อนได้อ่านกระทู้แนะนำอันหนึ่งของ 1000ทิป เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องท้องก่อนแต่ง ทำแท้ง และเบนโล อะไรประมาณนี้แหละ

จขกท เล่าเรื่องเพื่อนสนิทมาปรึกษาเรื่องทำแท้ง ด้วยความเป็นเพื่อนแม้ไม่เห็นด้วยแต่ก็ช่วยเพื่อน แม้จะผ่านมาเป็นสิบปี แต่ก็ยังรู้สึกผิดมาจนทุกวันนี้ ส่วนความเห็นต่างๆ ก็มาในทำนองเดียวกัน เคยเจอ-เคยเห็น-เคยมีส่วนร่วมกับการทำแท้ง แต่ทุกคนก็พูดเหมือนกัน คือ ไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้

น่าแปลกนะ.. ในเมื่อทุกคนไม่เห็นด้วยกับการทำแท้ง
แต่ทำไมเรื่องทำนองนี้ถึงยังเกิดขึ้นได้เสมอล่ะ??

ไอ้เรื่องมีอะไรกันก่อนแต่งงาน อันนี้ยอมรับว่า สังคมปัจจุบัน คนอายุ 25ปีขึ้นไปน้อยมากที่จะเหลือรอดอยู่ได้ (ที่พูดนี่เพราะชื่นชมนะ) รักสนุก..ทุกข์ถนัด เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ทั้งที่คนเราสมัยนี้การศึกษาก็สูงขึ้น เรื่องการคุมกำเนิดน่าจะเป็นเรื่องที่คนส่วนมากน่าจะพอรู้อยู่บ้างแต่เรื่องการให้ความสำคัญกับการป้องกัน อันนี้ไม่รู้เหมือนกันแฮะ หรือคนเราจะชอบแก้ปัญหามากกว่าป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา??

ช่างมันเถอะ..แต่เรื่องการตัดสินใจหลังจากที่รู้ว่าท้องนี่สิสำคัญ ในเมื่อทุกคนบอกว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่สนับสนุนแล้วทำไมธุรกิจฆ่าคนนี้ถึงได้เปิดอยู่ทุกมุมเมืองเช่นนี้ สังคมประนามกันเข้าไป แต่ก็เห็นว่ามันก็ยังเปิดอยู่ในที่ๆ คนกลุ่มเสี่ยงเข้าถึง

..มือถือสาก ปากถือศีลหรือเปล่านะ..

มีความเห็นอันนึงที่อ่านแล้วติดใจ เค้าบอกว่า "ทางพุทธศาสน์บอกว่า การเกิดนั้นลูกกับพ่อแม่ต้องมีบารมีเสมอกัน มีบุญ/กรรมผูกพันกันจึงจะมาเกิดเป็นพ่อแม่ลูกกันได้ การที่คนที่มีพร้อมทุกอย่างแต่มีลูกยาก เป็นเพราะคนที่พร้อมทั้งฐานะทรัพย์สินหน้าที่การงาน การศึกษา ชีวิตคู่ดี เป็นเพราะบารมีที่เคยทำมาทั้งชาติก่อนและในชาตินี้ส่งให้เขาได้อยู่ดีมีสุข แต่เด็กที่จะมาเกิดนั้นหาที่มีบารมีเสมอพ่อแม่ยาก สังเกตได้ว่าคนยุคหลังๆ ทำบุญน้อยลงทำบาปมากขึ้น วิญญาณที่จะไปเกิดกับพ่อแม่ที่มีบารมีน้อยจึงมีมากประดุจแย่งกันมาเกิด ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมพ่อแม่ที่ไม่พร้อมจึงจุดปุ๊ปติดปั๊ป ขนาดป้องกันทุกครั้งเผลอถุงยางรั่วถุง ยางแตกหนเดียวยังอุตส่าห์จะป่อง แต่พ่อแม่ที่พร้อมจะมีลูกพยายามทั้งจุดทั้งเผาไม่มีเปลือกก็ยังไม่ติดซักที"

กับอีกคนบอกว่าเพื่อนเคยช่วยเพื่อนคนนึงทำแท้ง หาสถานที่ ช่วยออกเงิน จัดการให้ทุกอย่าง หลังจากนั้นชีวิตเค้าเจอแต่โชคร้ายมาตลอดคงเพราะฆ่าคนบริสุทธิ์ไป หมอดูบอกว่ามีเด็กเดินตามจะมาเอาชีวิต ก็ได้แต่พยายามทำบุญตักบาตร ขออโหสิกรรม ก็ไม่รู้ว่าชีวิตจะดีขึ้นไหม

ที่จริงสังคมนี้คงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเยอะนะ แต่ไม่มีใครเอามาเปิดเผยให้คนภายนอกรู้เท่าไหร่นัก แต่พอเป็นโลก CYBER ซึ่งคนไม่ได้รู้จักกันในชีวิตจริง เรื่องต่างๆ ก็เลยพรั่งพรูออกมาเต็มที่เปิดโอกาสให้มีการพูดถึงกันอย่างเสรี

ถามตัวเอง ไม่เคยมีคนมาปรึกษาเรื่องนี้นะ..
ตอนมัธยมก็สนิทกับผู้ใหญ่เลยไม่ค่อยรู้เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของวัยรุ่นเท่าไหร่ แต่ด้วยความน่ารัก หน้าตาดี (แหะๆ ขอชมสักนิดเถอะ) ก็มีกิ๊กเด็กๆ กับเค้าเหมือนกัน เรียนด้วยกัน กินข้าวกลางวันด้วยกัน มีดอกไม้วาเลนไทน์ให้ตามสมัยนิยม ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยได้สัมผัสความรักลึกซึ้งกับใครเค้าหรอก ช่วงนั้นกลัวผู้ชาย 555 พอโตขึ้นหน่อยก็สนิทกับเพื่อนทั้งหญิงชาย ซึ่งทุกคนโสด (ไม่มีใครเอา) มันก็เลยไม่มีเรื่องอย่างนี้อีกเหมือนกันจนมาถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีเพื่อนสนิทสักคนที่ท้องในวัยเรียน (ก็ไม่น่ามีแล้วล่ะ อายุตั้งเท่าไหร่แล้วล่ะเนี่ย)

เพราะงั้นถ้าจะถามว่าจะทำยังไงถ้ามีคนมาปรึกษา ก็คงได้แต่บอกว่าไม่รู้ ไม่เห็นแหละ ไม่อยากช่วยใครทำบาป อีกอย่าง ถ้าเป็นวัยนี้จริงๆ ถ้าเกิดมันท้องกันขึ้นมาก็แต่งๆ ไปซะเถอะจะแตะเลข 3 กันอยู่แล้วนี่โตพอที่จะเป็นพ่อแม่คนได้แล้วจริงไหม ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองว่าข้ายังเด็กตลอดเวลาอ่ะนะ

พูดก็พูดเถอะ ก็มีนะ ที่เราไม่คิดว่าเค้าจะเคยทำ และนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ชีวิตรักไม่ค่อยราบรื่น ครอบครัวแตกแยกเคยถามแบบผิวๆ ว่าทำไมตอนนั้นถึงตัดสินใจอย่างนั้น ทั้งที่คนที่ท้องด้วยในตอนนั้น กับคนที่เป็นพ่อของลูกคนถัดมา ก็คือคนๆ เดียวกัน

คำตอบที่ได้ก็คือ ไม่พร้อม ยังเรียนอยู่ ยังมีไม่ได้

อืม.. บอกตรงๆ ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ไม่กล้าถามต่อไปได้แต่เก็บไว้ในใจคนเดียว
แล้วก็เอามาคิดคนเดียวว่า ถ้าเป็นตัวเราเอง (หวังว่า) เราคงไม่ตัดสินใจอย่างนั้นนะ

เฮ้อ.. จะเป็นยังไงนะ ถ้าเรามีพี่ชายอีกคน หรือว่า ถ้าเค้าได้เกิดมามันอาจจะไม่มีเราในวันนี้ก็เป็นได้นะ

ไม่มีความคิดเห็น: