วันอังคาร, ธันวาคม 16, 2551

Return: ความทรงจำใหม่..หัวใจเดิม

เมื่อคืนมีเรื่องเสียน้ำตาอีกแล้ว ทั้งที่เพิ่งกลับจากไปเที่ยวด้วยกันเมื่อวาน จะว่าเป็นเพราะว่ามีเวลาว่างมากไปมันก็มีส่วนถูก แต่มันไม่ใช่ทั้งหมดหรอก เหตุผลส่วนใหญ่น่ะมาจากอะไรเรารู้อยู่แก่ใจ "การคาดหวัง" ยังไงล่ะ

เจ็บปวดจริงๆ ก่อนนอนก็รู้สึกเหมือนตามันเล็กลง ตื่นขึ้นมาตาโตขึ้นเยอะ แต่มันเยอะซะจนบวมไปหมดทั้งตาเลยนี่สิ แม้จะเอาแป้งโปะ เมคอัพอัดเข้าไปยังไง๊ ยังไง มาถึงออฟฟิศก็ยังมีคนทัก "วันนี้เปลี่ยนแป้งหรือเปล่า ดูหน้าขาวๆ" ก็เออสิ! ถ้าหน้ามันไม่ขาว ตามันก็ดำ คงต้องเลือกสักอย่างนึงแหละ

ทางฝั่งเค้าบอกว่าไม่คิดว่าเราจะเป็นอย่างนี้ ทั้งที่เพิ่งตัดสินใจบอก "รัก" ไปเมื่อวันพฤหัสที่แล้ว และก็เพิ่งกลับจากไปเที่ยวด้วยกันมาด้วยซ้ำ นี่เค้าเปิดเผยขนาดนี้ก็ไม่น่าจะคิดอะไรแล้ว มันน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีด้วยซ้ำไป ทำไมเราต้องทำให้ทุกอย่างมันพังลงอีก

เหรอคะ.. ก็ไม่รู้นี่คะ จะต้องให้ "สังเคราะห์และวิเคราะห์เอง" ใช่ไหม ว่าที่ทำอย่างนั้นน่ะเพราะอะไร พอดีโง่น่ะคิดไม่ทัน จะเอาหัวที่มีแต่ Bias เต็มหัวไปวิเคราะห์มันจะได้อะไรนอกจากเข้าข้างตัวเองล่ะ เพราะงั้นไม่เข้าใจหรอกค่ะ! รู้แต่ว่าดีใจที่ "ได้ยิน" คำว่ารัก แต่ก็ "รู้สึก" ว่ามันไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่เป็นเพราะอยากได้พฤติกรรม รักหวานแหวว.. จ๊ะจ๋า.. แบบวัยรุ่นหรอกนะ ยอมรับว่ามันก็เป็นสีสันอย่างนึง แต่ก็เข้าใจว่าโตแล้วคงไม่มีอารมณ์มาแอ๊บเด็กอย่างนั้นซักเท่าไหร่ ก็แค่ต้องการความรักอย่างเดิมกลับมา ความรักที่รู้สึกที่ว่าเค้าเต็มที่กับเราจริงๆ

ไม่ใช่รักแบบรักคนอื่น.. ไม่ใช่รักตัวเอง..

เฮ้อออ จะพูดออกมายังไงให้เข้าใจได้ล่ะเนี่ย รักแบบรักจริงๆ รักแบบที่ไม่ได้เห็นตัวเองเป็นใหญ่ ก็ในเมื่อคนที่รักในวันนี้ก็คือคนเดิมในวันนั้น แล้วมันผิดตรงไหนที่ต้องการความรักแบบเดิมจากคนเดิม??

แล้วไอ้คำถามซ้ำๆ ซากๆ ที่น่ารำคาญนั่นแหละ มันช่วยบอกได้ว่าคนที่พูดน่ะเป็นคนเดิมหรือเปล่า? บอกคนอื่นว่าเป็นแฟนมันก็ดีหรอกนะ เปิดเผยว่าคบกันอยู่ ซึ่งก็โอเคอยู่แล้ว เมื่อก่อนก็อยากทำมานานแล้ว แต่ลึกๆ แล้วรู้ว่าตัวเองไม่ดีพอที่จะเอาไปให้ใครดูหน้าได้ว่าเป็นแฟน (อายตัวเอง)

แต่สงสัยว่าตั้งแต่กลับมาคบกัน เราเคยตกลงคบกันอย่างจริงจังหรือเปล่าว่าเป็นแฟนกัน ??
ถ้ามองฝั่งเรา ใช่สิ เราน่ะแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจน อยากกอดรัดฟัดเหวี่ยงทุกทีที่เจอหน้า ไอ้เรื่องอยากเป็นแฟนเค้าล่ะแน่นอน ส่วนเค้าล่ะ เจอก็เฉยๆ ทำท่าเหมือนเจอคนรู้จักงั้นแหละ ตั้งแต่คบกันมามีสักครั้งไหม ที่เค้าจะจับมือเราก่อน เค้าเคยกอดเราก่อน?? เออ เนอะ เพิ่งจะคิดได้ว่าไม่มี!!
(รู้สึกสมน้ำหน้าตัวเอง -_-" หน้าไม่อายจริงๆ เลยเรา)

ข้อมูลสุดท้ายที่มีก่อนหน้านี้คือ เราบอกรักเค้า แต่เค้าเลี่ยงๆ ที่จะพูดอะไร พอบีบคั้นมากๆ ก็พูดออกมาว่ายังไม่ได้รัก แต่ก็ตอบไม่ได้ว่าคิดอย่างไรกันแน่ ไม่อยากจะโกหก หรือพูดอะไรที่ไม่ได้มาจากใจจริงๆ แต่ถ้ามันฟังแล้วสบายใจ จะให้พูดว่ารักก็ได้นะ (นี่ถ้าชั้นบอกว่าก็ได้ มันจะทุเรศกว่านี้ไหมเนี่ย)

"บอกรักไปแล้วไม่ใช่แฟนแล้วจะเป็นอะไร ไม่อยากเป็นก็ได้นะ ยังไงก็ได้"

เสียใจนะ โกรธมากด้วย ที่ได้ยินอย่างนั้น สมองนี่จี๊ดขึ้นมาทันที คิดอยู่ว่าจะพูดสวนไปดีไหม

"ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ต้อง!!"

เมื่อก่อนเป็นคนแบบนี้หรือคะ ความละเอียดอ่อน ความใส่ใจมันหายไปไหนหมดแล้ว นี่คุณเป็นคนเดียวกับคนที่ชั้นรักหรือเปล่า??

ฟังดูเหมือนเสียสละตัวเองมากเลยนะ ยอมคบด้วยเนี่ยเพราะสงสาร โห..นี่เราน่าทุเรศขนาดนี้เลยเหรอ ต้องมาง้อผู้ชาย พยายามอ้อนวอนให้เค้ารัก นึกเกลียดตัวเองขึ้นมาตะหงิดๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นคนอย่างนี้เล้ยยย
..
..
..
ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงจะพูดไปแล้วล่ะ แต่ตอนนี้กำลังสำนึกผิดอยู่ว่าที่เค้าเปลี่ยนไปแบบนี้ก็เพราะเรา เพราะงั้นต้องยอมทน พยายามจะเข้าใจ ไปพร้อมๆ กับรอว่าคนรักคนเดิมจะกลับมาได้หรือเปล่า ชั้นรักคนๆ นั้นอ่ะ คนที่อบอุ่นและนุ่มนวล คนที่ให้ชั้นได้ทุกอย่าง คนที่ชั้นเชื่อว่าเค้ารักชั้นจริงๆไม่รู้ว่าเค้ายังอยู่แถวนี้หรือจากไปไกลแล้ว..

รู้ว่านะว่าตัวเองทำผิดไว้มาก มันคงมากๆๆๆ เสียจนทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ถ้าเป็นตัวเองยังไม่รู้จะรับได้หรือเปล่าเลย (น่าจะไม่ได้แหละ) เพราะงั้นอย่างที่พูดออกมาเมื่อคืนนั่นแหละ ความน้อยใจ เสียใจที่แบกไว้ในใจตลอดมา เข้าใจดี
..บอกว่ารักคนเดิมแล้วทำไมตอนนั้นไม่รัก
..เป็นเมียน้อย
..เห็นแก่ตัว
..(คงมีอีกเยอะ ที่อยากจะพูดออกมา แต่ไม่อยากให้คนฟังเสียใจ)

ยอมรับผิดทุกอย่างค่ะ ไม่มีอะไรจะแก้ตัวทั้งนั้น..
รู้ตัวว่าทำสิ่งที่เลวร้ายลงไปมากขนาดไหน ถึงแม้จะไม่ได้เป็นคนเจ็บเองแต่ก็สัมผัสได้จากความเสียใจของคนที่เรารักได้รับกรรมที่ต้องฝืนความรู้สึกตัวเองแสร้งทำว่าชีวิตปกติดีทั้งที่ในใจมันอยากไปหาใจแทบขาด ต้องเสียตัว (เจ็บตัว) เสียของ (พังไปเป็นแถบๆ) ต้องเห็นคนที่เรารักเสียใจทั้งที่มันเกิดจากตัวเราเอง สิ่งที่เป็นกำลังใจได้ ก็คือความหวังว่า วันนึงคงมีโอกาสได้มีความรักดีๆ อีกสักครั้ง

เพราะงั้นในวันนี้จึงอยู่ตรงนี้ ขอโอกาสเพื่อแก้ตัวในสิ่งที่ทำผิดพลาดลงไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า แต่ก็อยากจะลองพยายามทำอะไรเพื่อรักอีกสักครั้งกับคนที่เคยทำให้เราเชื่อว่าเค้ารักเรามากจริงๆ อยากให้เค้าได้เข้าใจว่าเรารักเค้ามากเช่นกัน ชีวิตนี้คงไม่คิดจะไปมีอะไรกับใครอีกแล้ว ปีหน้านี่ก็ 30 แล้วนะ เพียงพอแล้วกับความรักๆ ใคร่ๆ แบบวัยรุ่น หมดเวลาที่จะตามหา Mr. Right Man แล้วล่ะ มันคงได้เวลาจะหยุดอยู่กับใครสักคน แต่ถ้าในอนาคต ความรักมันไม่เป็นไปอย่างที่คิดจริงๆ ก็คงแล้วแต่ชะตา เราอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อมีใครสักคนเคียงข้างก็ได้ คิดว่างั้นนะ

แม้ว่าวันนี้กล้าที่จะตัดสินใจทิ้งใครบางคนมาเพื่อจะเริ่มต้นใหม่
แต่คนรักคนเดิมของเรา เค้าคงจะยังรอเราอยู่ที่เดิมหรือเปล่านะ..
คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ คือเค้าหรือเปล่า..

ไม่มีความคิดเห็น: