ทำอย่างไรดีนะ...
จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย...
มันอื้อๆ ชาๆ แล้วก็อยากอยู่นิ่งๆ ไม่ทำอะไร รู้สึกเหมือนคนกำลังเคว้งคว้างเพราะสูญเสียอะไรสักอย่างที่ยึดถือมานาน
แล้วที่ผ่านมาเราเชื่อมั่นลมๆ แล้งๆ ไปคนเดียวใช่ไหม?
แม้ว่าลึกๆ ก็เหมือนจะรู้และยอมรับอยู่กลายๆ แล้วว่าผู้ชายทั่วไปคิดอย่างไรกับเรื่องพวกนี้ สำหรับเพศผู้ทั้งหลาย การ "เที่ยวผู้หญิง" ไม่ใช่สิ่งผิดตราบเท่าที่ไม่ได้ผูกพันอะไร เหมือนหิวข้าวก็กินข้าวอิ่มแล้วก็จบกันเท่านั้นเอง เป็นเพียงการระบายความใคร่ไปพร้อมๆ กับการแสดงพลังของตัวเองเหนือเพศตรงข้าม
แต่จะมีผู้ชายคนไหนเคยคิดบ้างไหมว่าผู้หญิงจะรู้สึกอย่างไรที่ได้รู้ว่าคนที่ตัวเองรักไปแลกเปลี่ยนสสารกับผู้หญิงคนอื่น แม้จะไม่ได้มีเป็นตัวเป็นตน แต่แค่คิดว่าคนของเราเคยไปจับต้อง ไปทำอะไรต่อมิอะไรกับคนอื่นมันก็รู้สึกไม่ดีแล้ว
ทั้งที่รู้ว่าคนๆ นั้นผ่านผู้ชายอื่นมาไม่รู้เท่าไหร่ ก็ยังสามารถ "กระทำ" ซ้ำรอยกันไปได้ เอาตัวเองที่สะอาดบริสุทธิ์ไปกลั้วกับมลทิน แล้วยังคิดอีกว่าเป็นการผ่อนคลาย แก้เครียด ไม่ได้รู้สึกเลยว่าตัวเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเสีย
แต่กับผู้หญิงของตัวเองนั้นถ้าเป็นไปได้จะต้องบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่เคยตกเป็นของใครมาก่อน จะต้องรักเดียวใจเดียวไม่นอกใจและไม่นอกกายกับคนอื่นเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นผลที่ได้รับก็คือ "เลิกรา" เพราะเมียจะต้องเป็นของผัวได้เพียงคนเดียว มันช่างต่างกับน้องๆ ทั้งหลายที่ผู้ชายใช้ต่อๆ กันได้อย่างไม่รู้สึกรังเกียจ
ตัวเราเองก็เหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไปน่ะแหละที่คาดหวังว่าคนที่จะมาเป็นสามีก็ควรจะทำตัวให้คู่ควรกับการที่เราได้รักษาตัวเองมาเพื่อเค้า ลืมไปเสียสนิทว่า ตัวเองก็ทำตัวไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมสักเท่าไหร่ ที่ริอาจข้ามขั้นชิงสุกก่อนห่าม มัวแต่ลำพองใจว่าตัวเองโตแล้วรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ เชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป มองข้ามความจริงที่ว่า ทัศนคติของคนเรามันแสดงออกจากสิ่งที่เค้ากระทำนั่นแหละ ถ้าเค้าทำกับเราได้ เค้าก็ทำกับคนอื่นได้เช่นกัน ในเมื่อมันไม่ใช่สิ่งที่ผิดในสายตาเค้า ส่วนตัวเราในเมื่อเราก็ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ การที่เรายอมให้อะไรๆ มันเกิดขึ้นมาแล้วเราก็ต้องยอมรับสภาพและผลที่ตามมาสินะ
นึกแปลกใจตัวเองที่ไม่รู้สึกโกรธเลยกับสิ่งที่ได้รู้ กลับขอบคุณที่เค้ากล้ายอมรับความจริง แต่รู้สึกหมดแรง หมดกำลังใจมากกว่า มันเหมือนรอยกรีดที่บาดลึกลงในใจ เลือดค่อยๆ ซึมไหลออกมาให้รู้สึกเจ็บปวดตลอดเวลา สิ่งที่น่าเสียใจมากที่สุดคือ "ความเชื่อใจ" ที่เราพยายามบอกตัวเองให้ยอมรับมาเป็นสิบปีและยึดถือไว้มาตลอดสามปีกว่าๆ ที่รับรู้และให้อภัยในสิ่งที่เค้าสารภาพ และเชื่อมั่นคำพูดของเค้าว่าจะไม่มีอย่างนั้นอีก
ตลอดเวลาที่รู้จักกันมา 13 ปี แม้จะไม่เคยที่จะเอ่ยออกมา แต่ไม่มีสักครั้งที่ผู้ชายคนนี้จะทำให้เราผิดหวัง ผู้ชายแสนดีที่ทำให้เรา "เชื่อมั่น" อย่าง "สนิทใจ" ว่าเค้าจะไม่มีวันทำให้เราเสียใจ เราศรัทธาในตัวผู้ชายคนนี้ที่เคยร้องไห้ต่อหน้าผู้หญิงเพราะความรู้สึกที่มีต่อแม่ เรานับถือจิตใจของเค้าที่แสนจะดีงามและละเอียดอ่อน เค้าคือคนที่เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อผู้ชายของเรา ทำให้ได้รู้เพียงแค่เปิดใจเราก็จะเห็นว่ายังมีผู้ชายดีๆ อยู่ในโลกนี้ และความรักของคนต่างเพศเป็นเรื่องจริง จนในที่สุดเราก็กล้าที่จะมีความรัก
ถึงแม้ใครๆ จะบอกว่ามันเป็นธรรมชาติของผู้ชาย
แต่สำหรับเรามันคือ "ความเชื่อใจ" ที่ถูกทำลายไป
มันเจ็บปวดนะเวลาที่ได้รู้ว่าสิ่งที่เราเชื่อมาตลอดมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นจริง
หลังจากนั่งเสียใจมาเกือบทั้งวันทั้งคืน เราก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเราถึงไม่โกรธและไม่เกลียดเค้า
เพราะเราคิดว่าคนที่ไม่ดีพอคือตัวเราเอง..
การที่เค้าบอกว่าเบื่อๆ เซ็งๆ เลยออกไปเที่ยว เราคงแย่มากที่ไม่สามารถจะช่วยอะไรเค้าได้เลยสินะ
เพราะเราไม่สวย ไม่เซ็กซี่ ไม่ออดอ้อนออเซาะ เอาอกเอาใจไม่เป็น หรือเพราะไม่เก่งเรื่องอย่างว่า ไม่เร้าใจมากพอสำหรับเค้า
เข้าใจนะ.. สุดท้ายผู้ชายก็ชอบผู้หญิงที่มีความเป็นผู้หญิง คนที่สวยน่ารักมากกว่า ผู้หญิงบ้านๆ ดูเป็นทอมก็ไม่ใช่ ผู้หญิงก็ไม่เชิงอย่างเรา ไม่มีลักษณะที่น่ารักน่าทะนุถนอมเอาเสียเลย นานวันเข้าความอ่อนไหว ความสดใสไร้เดียงสาก็ยิ่งหายไป แล้วมันจะเหลืออะไรให้น่าค้นหาอีกล่ะ..
ยิ่งคิดยิ่งละอายใจกับสิ่งที่ทำลงไปเมื่อวาน
นอกจากแสดงออกอะไรทุเรศๆ ไปแล้ว ยังได้รู้อีกว่าเราไม่สามารถจะ "สร้าง" ความรู้สึกอะไรได้เลยจริงๆ
วันจันทร์, มกราคม 25, 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น