วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 07, 2552

Wedding's Day วันแห่งความหวังของผู้หญิงทั้งโลก..

วันนี้แว่บเข้าไปดูเว็บถ่ายรูปอย่างไม่ตั้งใจ เหตุมาจากว่า 2 สาวในออฟฟิศที่กำลังรอให้ถึงงานแต่งงานที่กำหนดเอาไว้แล้วอย่างใจจดใจจ่อ ได้มาพูดคุยกันถึงเรื่องงานในอนาคตที่ใกล้เข้ามาทุกที และแน่นอนเมื่อสาวเจ้ามาพูดกันอยู่ข้างหู..มีรึจะไม่ฟัง (ถึงไม่พูดใกล้ๆ ก็คงฟังน่ะแหละ 55+) แล้วก็เลยทำให้เกิดข้อสงสัยในพิธีการที่ฟังมาแต่ละครั้งไม่เคยเหมือนกันสักที จนกระทั่งได้ข้อสรุปว่า "แล้วแต่ฤกษ์ยามที่ไปดูกันมานั่นแหละ ใครว่าอย่างไรก็อย่างนั้น ถุกสำหรับเขา"

แต่แล้วมือก็อยู่ไม่สุขกดเข้าไปหาข้อมูลอีกจนได้ อ่านไปอ่านมา เออ..หนอ.. เราก็จะไปงานแต่งในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว กล้องก็อยู่กับมือ แฟลชก็เพิ่งยืมมาเมื่อกี้ ซะหน่อยน่า.. หาข้อมูลเผื่อไว้บ้างอาจทำให้ชีวิตมัน "ประเทือง" ขึ้นมาบ้างล่ะนะ อ่านไปก็อือๆๆ เหรอๆๆ สลับกับความกลุ้มที่พอกพูนว่าตรูจะเอาไอ้ความรู้เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ได้จริงๆ ไหมวะเนี่ย และแล้วก็สะดุดตากับประโยคนี้มากๆ จนทำให้อยากเขียนถึงมันเลยล่ะ!

บางอย่างที่อยากฝากไว้...
ในงานแต่งงาน...

บางสิ่งดูเหมือนไม่สำคัญในสายตาเรา แต่จริง ๆ แล้วทุกรายละเอียดในงานแต่งงานนั้นสำคัญครับ...
เจ้าภาพเลือกสรรมาหมดแล้วทั้งสิ้น... ผมถือว่าทุกสิ่งที่ผมมองเห็นในงานนั้นล้วนสำคัญทั้งสิ้น...

บางสิ่งบางอย่างและในบางมุม บ่าวสาวไม่มีโอกาสได้เห็น เพราะมัวแต่ยุ่งกับการรับแขก และกิจกรรมบนเวที จนไม่มีเวลามาสังเกต..

จะดีแค่ไหนถ้า ทุกครั้งที่เขาได้มองภาพถ่าย..
เขาสามารถได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเตรียมตัวและตั้งใจจัดมันขึ้น...

มิใช่ว่า..ความประทับใจทั้งหลาย..หายไปในชั่วข้ามคืน...
สิ่งที่ได้มาคือ ภาพถ่ายตั้งแถว.. ที่มีแต่แขกผู้มาเยือน.....





อืม..
จริงสินะ..

"งานแต่งงาน" เป็นงานที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตผู้หญิงเลยก็ว่าได้
ถ้าเป็นสมัยก่อน ผู้หญิงคงต้องดีใจและเสียใจกับ "การได้มา" และ"การเสียไป" ในบางสิ่งซึ่งมันก็คงทำให้วันนี้เป็นวันที่มีความหมายลึกซึ้งในความรู้สึกมากกว่าสมัยนี้ ที่บางทีก็เป็นเพียงการประกาศให้โลกรู้ในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ แต่ยังไงซะสิ่งที่เหมือนกันก็คือ.. ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากแต่งงานมากกว่า 1 ครั้ง เพราะฉะนั้น.. มันก็เลยเป็นวันที่มีความหมายที่สุด และก็ต้องการให้ทุกอย่างมันออกมาดีที่สุดล่ะเนอะ..

ไปงานใครๆ เค้ามาก็พอสมควร..

ก็ได้แต่คิดว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้เป็นตัวเอกในละครฉากนี้กับใครเขาบ้างหรือเปล่านะ เคยแม้กระทั่งฝันไปต่างๆ นานาว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แอบวาดหวังคนเดียวมานาน.. จนตอนนี้รู้สึกเหมือนกับสิ่งที่คิดนั้นสามารถมองเห็นเป็นรูปเป็นร่างจางๆ เหมือนจะมีอยู่จริง แต่ก็ไม่กล้าที่จะคว้ามันเพราะกลัวว่าสิ่งที่เห็นนั้นจะสูญสลายไป

..เหมือนฝันกลางฤดูร้อน..